หมายเหตุ : สัมภาษณ์พิเศษ พระมหาไพรวัลย์ วรวณฺโณ พระหัวก้าวหน้าถึงประเด็นพระ-พุทธศาสนา กับประชาธิปไตย
หลวงพี่เข้ามาบวชได้อย่างไร
อาตมาเป็นคน อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี ฐานะทางบ้านค่อนข้างยากจน ทางเลือกน้อย พอจบประถมศึกษาปีที่ 6 ตอนอายุ 12 ขวบ ราวปี 2547 โยมเขาเลยตัดสินใจให้ไปบวชเรียนที่สุโขทัยดีกว่า จะได้มีโอกาสศึกษามากขึ้น ถ้าอยู่เป็นโยม โอกาสที่โยมจะส่งเรียนก็ค่อนข้างน้อย อาจจะจบได้อย่างมากก็ม.3 บวชตั้งแต่เป็นเณรมาจนถึงวันนี้ ก็ประมาณ 10 ปี บวชพระมาได้ 2 ปี ปีนี้เข้าปีที่ 3
ได้ยินว่าจบเปรียญธรรม 9 ขณะเป็นสามเณร
อาตมาจบเปรียญธรรม 9 ประโยคตั้งแต่เป็นสามเณรจริง เริ่มเรียนตั้งแต่หลักสูตรชั้นต้น จนจบเปรียญธรรม 9 ก็อายุครบอุปสมบทพอดี ตอนอุปสมบทก็ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ รับอุปสมบทเป็นพระภิกษุนาคหลวงบวชที่วัดพระแก้ว พอปี 2555 จึงย้ายมาอยู่วัดสร้อยทอง กิจวัตรประจำวัน คือ สอนหนังสือ สอนบาลี นักธรรม สอนจริยธรรม ระหว่างนี้ก็เรียนปริญญาโทที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย และปริญญาตรีที่คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง ไปด้วย
จุดยืนสนับสนุนประชาธิปไตยมาตอนไหน
เรื่องประชาธิปไตย อาตมาติดตามมานานแล้ว ชอบฟังเสวนา และได้อ่านหนังสือบ้าง จุดเปลี่ยนที่สำคัญ คือ การได้อ่านหนังสือของอาจารย์ ส.ศิวรักษ์ เล่มแรก น่าจะเป็น “ค่อนศตวรรษ ประชาธิปไตยไทย ที่เต็มไปด้วยขวากหนาม” มันทำให้เราได้มองเห็นความจริงหลายอย่างว่า ปัจจุบันสังคมมันเปลี่ยนไปแล้ว คนไม่ได้เชื่ออะไรง่ายๆ หัวโบราณ หรือตามจารีตประเพณีอีกต่อไป พวกเขาเริ่มมีความเห็น เริ่มเรียกร้อง และต้องการมีส่วนร่วมทางการเมืองมากขึ้น
คิดอย่างไรกับการรัฐประหารครั้งนี้
อาตมาไม่เห็นด้วยกับการรัฐประหาร ถามว่าเพราะอะไร ประวัติศาสตร์ก็บอกในตัวมันเองอยู่แล้ว ว่ามันไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้น มีแต่จะบ่มเพาะความขัดแย้งยิ่งขึ้นไปอีก ลองดูการรัฐประหาร 19 ก.ย. 2549 ถามว่าปัญหาทุกวันนี้เกิดขึ้นจากอะไร ก็เพราะการรัฐประหารครั้งที่แล้ว คนเขารับไม่ได้กับการรัฐประหาร เขาจึงออกมาแสดงจุดยืน และแสดงอย่างชัดเจนด้วย คือถ้าคุณเห็นว่าการรัฐประหารถูก ก็ไปยืนอยู่อีกฝั่งหนึ่ง แต่ฉันเห็นว่าการรัฐประหารผิด ฉันก็ยืนอยู่อีกฝั่งหนึ่ง สังคมไทยมันไปด้วยกันไม่ได้แล้ว กลายเป็นสองสี สองเสื้อ
ครั้งนี้เจ้าหน้าที่รัฐจับกุมคนกินแซนด์วิช คนชูสามนิ้วไปเปลี่ยนทัศนคติ คุณต้องเข้าใจก่อนว่าเขาไม่ใช่คนจิตวิปริต หรือคนบ้า ที่จะจับเขาไปอยู่โรงพยาบาล หรือสงบสติอารมณ์ เขาเป็นปกติชน เขาเคยอยู่ในสังคมประชาธิปไตย เคยอยู่ในโลกเสรี ที่มีเสรีภาพที่จะแสดงความคิดเห็น วันหนึ่ง คุณมาปัง! ปัง! ปัง! แล้วก็สั่งห้ามโน่น นี่ มันยุติธรรมหรือเปล่า มันอยุติธรรม
คสช.บอกว่าขอเวลาปฏิรูป
ต้องขอถามว่าปฏิรูปอะไร ปฏิรูปให้ใคร
สิ่งหนึ่งที่ต้องยอมรับให้ได้ก่อน คือ หลักการของความถูกต้อง ไม่ว่าจะฝ่ายใด จะชอบหรือไม่ชอบกันก็ตาม หากเราบอกว่าเราอยู่ในสังคมประชาธิปไตย เราก็ต้องยอมรับหลักการของประชาธิปไตยให้ได้ ไม่ว่าคุณจะตัดสินคนว่าดี/ไม่ดี เลว/ไม่เลว คุณก็ต้องเอาหลักการประชาธิปไตยมาตัดสิน คุณจะไปเอากรอบอื่นมาตัดสินได้อย่างไร
ถ้าเป็นประชาธิปไตย แล้ววนกลับไปสู่การเลือกตั้ง เจอคอร์รัปชั่นเหมือนที่หลายคนกลัวกันอีก
ก็ต้องจวกคนที่คอร์รัปชั่น แต่ต้องไม่เกินขอบเขต อย่างการออกมาประท้วงพ.ร.บ.นิรโทษกรรม ให้ยุบสภา นั่นก็ถูกต้อง แต่เมื่อเขาออกไปแล้ว ต้องทำตามกติการะบอบประชาธิปไตย คุณจะมาเรียกร้องอะไรที่เกินเลย นอกเหนือไปจากนั้นไม่ได้ คุณต้องยอมรับว่ามันทำไม่ได้ เพราะไม่งั้นมันจะเป็นปัญหา อาตมาสนับสนุนหลักการของประชาธิปไตย แต่ไม่สนับสนุนตัวบุคคล หรือกลุ่มอะไรก็ตามแต่ หลักการต้องคงไว้ จะทิ้งไม่ได้ จะดีจะร้ายก็ทิ้งหลักการไม่ได้ ต้องยึดเอาไว้ ต้องทำให้มันบริสุทธิ์ สะอาด ต้องตอกให้แน่น ไม่ใช่บอกว่าหลักการไม่ดี แล้วก็ถีบมันทิ้ง งั้นก็ไม่เหลืออะไรให้ยึดแล้วสิ ถ้าคนไม่ทำตามหลักการ ก็จัดการที่คน ไม่ใช่มาจัดการที่หลักการ
ติดตามคลิปบทสัมภาษณ์พระมหาไพรวัลย์ โดยทีมงานมติชนทีวี เร็วๆ นี้
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น